TR05 ตุรกี อิสตันบูล ปามุคคาเล่ อังการ่า (TK) 8 วัน 5 คืน
พิเศษเพียง 29,899 บาท/ท่าน
*พักโรงแรมระดับ 4 ดาว ตลอดการเดินทาง
*บินตรงกับสายการบินประจำชาติ Turkish Airlines
*Bus VIP 45 ที่นั่ง หน้าจอ Touch Screen ทุกที่นั่ง
ให้ท่านได้สนุกสนานกับการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง
*Free Wifi On Bus ตลอดการเดินทาง!!!!
18.30 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น4 สายการบิน Turkish Airlines เคาน์เตอร์ U ประตู 9 โดยมีทีมงานของ Siamtogo คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก
21.30 น. ออกเดินทางบินตรงสู่ กรุงอิสตันบูล โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK-65 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
วันที่ 2 อิสตันบูล – ล่องเรือช่องแคบบอสฟอรัส – คูซาดาซึ |
04.00 น. เดินทางถึง สนามบินนานาชาติ อตาเติร์ก กรุงอิสตันบูล หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง นำทุกท่านเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองอิสตันบูลเพื่อรับประทานอาหารเช้า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำทุกท่าน ล่องเรือชมช่องแคบบอสฟอรัส จุดที่บรรจบกันของทวีปยุโรปและเอเชีย ซึ่งทำให้ประเทศตุรกีได้รับสมญานามว่า ดินแดนแห่งสองทวีป ช่องแคบบอสฟอรัสยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเนื่องจากเป็นเส้นทางเดินเรือที่เชื่อมทะเลดำทะเลมาร์มาร่า เราจะได้เห็นป้อมปืนที่ตั้งเรียงรายอยู่ตามช่องแคบ ได้แก่ Rumeli Castle และ Anatolia Castle โดยจุดชมวิวที่สำคัญคือสะพาน แขวนบอสฟอรัส เชื่อให้รถยนต์สามารถวิ่งข้ามฝั่งยุโรปและเอเชียได้ สร้างเสร็จในปี ค.ศ.1973 มีความยาวทั้งสิ้น 1,560 เมตร และได้กลายเป็นสะพานแขวนที่ยาวเป็นอันดับ 4 ของโลกในสมัยนั้น (ปัจจุบันตกไปอยู่อันดับที่ 21) ขณะที่ล่องเรือพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศสองข้างทาง ซึ่งสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะเป็นพระราชวังโดลมาบาเช่และบ้านเรือนของบรรดาเหล่าเศรษฐีที่สร้างได้สวยงามตระการตา หลังจากนั้นนำทุกท่านออกเดินทางสู่ เมืองคูซาดาซึ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชม. (560 กม.)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำทุกท่านออกเดินทางต่อสู่ เมืองคูซาดาซึ
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก KUSADASI SEAPORT HOTEL & SPA ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 3 คูซาดาซึ – ปามุคคาเล่ |
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเข้าชม House of Virgin Mary บ้านพระแม่มารี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นที่สุดท้ายที่พระแม่มารีอาศัยอยู่และสิ้นพระชนม์ในบ้านหลังนี้ ชม วิหารเทพีอาร์เทมิสโบราณ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ยุคโบราณ สร้างด้วยหินอ่อนเป็นสถาปัตยกรรมกรีกแบบไอโอนิค และมีเสาหินตั้งตระหง่านรอบวิหารมากกว่า 100 ต้น ปัจจุบันเหลือเพียงซากปรักหักพัง แต่ก็ยังสามารถมองเห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตได้ จากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองโบราณเอฟฟิซุส เมืองโบราณที่มีการบำรุงรักษาไว้เป็นอย่างดีเมืองหนึ่ง เคยเป็นที่อยู่ของชาวโยนก (Ionia) จากกรีก ซึ่งอพยพเข้ามาปักหลักสร้างเมือง ซึ่งรุ่งเรืองขึ้นในศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสต์กาล ต่อมาถูกรุกรานเข้ายึดครองโดยพวกเปอร์เซียและกษัตริย์อเล็กซานเดอร์มหาราช ภายหลังเมื่อโรมันเข้าครอบครองก็ได้สถาปนาเอฟฟิซุส ขึ้นเป็นเมืองหลวงต่างจังหวัดของโรมัน นำท่านเดินบนถนนหินอ่อนผ่านใจกลางเมืองเก่าที่สองข้างทางเต็มไปด้วยซากสิ่งก่อสร้างเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรงละครกลางแจ้งที่สามารถจุผู้ชมได้กว่า 30,000 คน ซึ่งยังคงใช้งานได้จนถึงปัจจุบันนี้ นำท่านชม ห้องอาบน้ำแบบโรมันโบราณ (ROMAN BATH) ที่ยังคงเหลือร่องรอยของห้องอบไอน้ำ ให้เห็นอยู่จนถึงทุกวันนี้, ห้องสมุดโบราณ ที่มีวิธีการเก็บรักษาหนังสือไว้ได้เป็นอย่างดีทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นศิลปะแบบ เฮเลนนิสติคที่มีความอ่อนหวานและฝีมือประณีต
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังจากนั้นนำทุกท่านเดินทางสู่ เมืองปามุคคาเล่ ใช้เวลาเดินทาง 3 ชม. (189 กม.) เมืองที่มีน้ำพุเกลือแร่ร้อนไหลทะลุขึ้นมาจากใต้ดินผ่านซากปรักหักพังของเมืองเก่าแก่สมัยกรีกก่อนที่ไหลลงสู่หน้าผา นำท่านชม ปราสาทปุยฝ้าย ผลจากการไหลของน้ำพุเกลือแร่ร้อนนี้ได้ก่อให้เกิดทัศนียภาพของน้ำตกสีขาวเป็นชั้นๆหลายชั้นและผลจากการแข็งตัวของแคลเซียมทำให้เกิดเป็นแก่งหินสีขาวราวหิมะขวางทางน้ำเป็นทางยาว ซึ่งมีความงดงามมาก ท่านจะได้สัมผัส เมืองเฮียราโพลิส (Hierapolis) เป็นเมืองโรมันโบราณที่สร้างล้อมรอบบริเวณที่เป็นน้ำพุเกลือแร่ร้อน ซึ่งเชื่อกันว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรค เมื่อเวลาผ่านไปภัยธรรมชาติได้ทำให้เมืองนี้เกิดการพังทลายลง เหลือเพียงซากปรักหักพังกระจายอยู่ทั่วไป บางส่วนยังพอมองออกว่าเดิมเคยเป็นอะไร เช่น โรงละคร แอมฟิเธียร์เตอร์ขนาดใหญ่ วิหารอพอลโล สุสานโรมันโบราณ เป็นต้น
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก PAMUKKALE LYCUS RIVER HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
วันที่ 4 ปามุคคาเล่ – คัปปาโดเกีย |
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
หลังรับประทานอาหารเช้า นำท่านเดินทางสู่ เมืองคอนย่า (Konya) ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเซลจุก ระยะทาง 387 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำทุกท่านสู่ พิพิธภัณฑ์เมฟลาน่า (Mevlana museum) เดิมเป็นสถานที่นักบวชในศาสนาอิสลามทำสมาธิ โดยการเดินหมุนเป็นวงกลมขณะฟังเสียงขลุ่ย ส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑ์เป็นสุสานของเมฟลาน่า เจลาลุคดิน รูมี่ อาจารย์ทางปรัชญาประจำราชสำนักแห่งสุลต่านอาเลดิน เคย์โคบาท ภายนอกเป็นหอทรงกระบอกปลายแหลมสีเขียวสดใส ภายในประดับฝาผนังแบบมุสลิม และยังเป็นสุสานสำหรับผู้ติดตาม สานุศิษย์ บิดา และบุตร ของเมฟลาน่าด้วย จากนั้นเดินทางสู่ เมืองคัปปาโดเกีย (Cappadocia) ระยะทาง 215 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที ระหว่างทางแวะชม Caravansarai ที่พักของกองคาราวานในสมัยโบราณ เป็นสถานที่พักแรมของกองคาราวานตามเส้นทางสายไหมและชาวเติร์กสมัยออตโตมัน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
หลังอาหารนำท่านชมการแสดงพื้นเมือง “ระบำหน้าท้อง” หรือ Belly Dance เป็นการเต้นรำที่เก่าแก่อย่างหนึ่ง เกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ 6000 ปี ในดินแดนแถบอียิปต์ และเมดิเตอร์เรเนียน นักประวัติศาสตร์เชื่อกันว่า ชนเผ่ายิปซีเร่ร่อนคือคนกลุ่มสำคัญที่ได้อนุรักษ์ระบำหน้าท้องให้มีมาจนถึง ปัจจุบัน และการเดินทางของชาวยิปซีทำให้ระบำหน้าท้องแพร่หลาย มีการพัฒนาจนกลายเป็นศิลปะที่โดดเด่น สวยงาม จนกลายมาเป็นระบำหน้าท้องตุรกีในปัจจุบัน (บริการเครื่องดื่มฟรีตลอดการแสดง)
นำท่านเข้าสู่ที่พัก CAPPADOCIA GOLD YILDIRIM HOTEL หรือเทียบเท่า (คัปปาโดเกีย)
** สำหรับท่านใดที่สนใจขึ้นบอลลูนชมความงามของเมืองคัปปาโดเจีย จะต้องออกจากโรงแรม 05.30 น. เพื่อชมความงดงามของเมืองคัปปาโดเจียในอีกมุมหนึ่งที่หาชมได้ยาก ใช้เวลาอยู่บอลลูนประมาณ 1 ชั่วโมง **
(ค่าขึ้นบอลลูนไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์ประมาณ 210-250 USD ค่ะ)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำทุกท่านสู่ นครใต้ดิน (Underground City of Derinkuyu or Kaymakli) ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเป็นมรดกโลก เมืองใต้ดินของตุรกีมีอยู่หลายแห่ง แต่ละแห่งมีอุโมงค์เชื่อมต่อถึงกัน เป็นสถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ใช้หลบภัยชาวโรมัน ที่ต้องการทำลายร้างพวกนับถือศาสนาคริสต์ สำหรับที่เราไปชมวันนี้เป็นเมืองใต้ดินที่มีขนาดใหญ่ มีถึง 10 ชั้น แต่ละชั้นมีความกว้างและสูงขนาดเท่าเรายืนได้ ทำเป็นห้อง ๆ มีทั้งห้องครัว ห้องหมักไวน์ มีโบสถ์ ห้องโถงสำหรับใช้ประชุม มีบ่อน้ำ และระบบระบายอากาศที่ดี แต่อากาศค่อนข้างบางเบาเพราะอยู่ลึก และทางเดินบางช่วงค่อนข้างแคบจนเดินสวนกันไม่ได้
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำทุกท่านเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ที่ เมืองเกอเรเม (Goreme) ซึ่งยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางของศาสนาคริสต์ในช่วง ค.ศ. 9 ซึ่งเป็นความคิดของชาวคริสต์ที่ต้องการเผยแพร่ศาสนาโดยการขุดถ้ำเป็นจำนวนมากเพื่อสร้างโบสถ์ และยังเป็นการป้องกันการรุกรานของชนเผ่าลัทธิอื่นที่ไม่เห็นด้วยกับศาสนาคริสต์
ชม หุบเขาอุซิซาร์ (Uchisar Valley) หุบเขาคล้ายจอมปลวกขนาดใหญ่ ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ซึ่งหุบเขาดังกล่าวมีรูพรุน มีรอยเจาะ รอยขุด อันเกิดจากฝีมือมนุษย์ไปเกือบทั่วทั้งภูเขา เพื่อเอาไว้เป็นที่อาศัย และถ้ามองดี ๆ จะรู้ว่าอุซิซาร์ คือ บริเวณที่สูงที่สุดของบริเวณโดยรอบ ดังนั้นในอดีตอุซิซาร์ ก็มีไว้ทำหน้าที่เป็นป้อมปราการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเอาไว้สอดส่องข้าศึกยามมีภัยอีกด้วย จากนั้นนำท่านแวะ ชมโรงงานทอพรม โรงงานเซรามิค อิสระกับการเลือกซื้อสินค้า และของที่ระลึก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
นำท่านเข้าสู่ที่พัก CAPPADOCIA GOLD YILDIRIM HOTEL หรือเทียบเท่า (คัปปาโดเกีย)
วันที่ 6 คัปปาโดเกีย – อังการ่า |
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางสู่ เมืองอังการ่า เมืองหลวงของประเทศตุรกี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง ระหว่างทางให้ท่านได้แวะถ่ายรูปและชมวิวของ ทะเลสาบเกลือ (Salt Lake) จากนั้นนำทุกท่านเดินทางต่อสู่ เมืองอังการ่า หรือที่มีชื่อตามประวัติศาสตร์ว่า Angora เป็นเมืองหลวงของตุรกีในปัจจุบัน และเป็นเมืองใหญ่อันดับ ๒ รองจากนครอิสตันบูล กรุงอังการาตั้งอยู่ในเขต Central Anatolia ใจกลางประเทศตุรกีบนที่ราบสูงอนาโตเลีย โดยอยู่ห่างจากนครอิสตันบูลทางทิศตะวันออกเฉียงใต้เป็นระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร กรุงอังการาเป็นที่ตั้งของรัฐบาลกลาง ส่วนราชการต่าง ๆ และสถานเอกอัครราชทูตประเทศต่าง ๆ ในตุรกี ความสำคัญของกรุงอังการา กรุงอังการามีประชากรจำนวน 4,965,542 คน ทำให้กรุงอังการาเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ ๒ ของตุรกี และอันดับ ๒ ในกลุ่มเมืองหลวงยุโรป ในขณะที่นครอิสตันบูลเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคมาร์มารานั้น กรุงอังการาก็เป็นศูนย์กลางทางการค้าและเครือข่ายคมนาคมในภูมิภาคอนาโตเลีย โดยเป็นจุดตัดของการคมนาคมทางบก (รถยนต์และรถไฟ) ที่เชื่อมโยงภูมิภาคต่าง ๆ ของตุรกีเข้าด้วยกัน และเป็นศูนย์กลางตลาดสินค้าเกษตรที่ขนส่งมาจากภาคต่างๆ ทั่วตุรกีด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
นำทุกท่านเดินทางสู่ สุสานอตาเติร์ก (ATATURK MAUSOLEUM) เป็นอนุสรณ์สถานและสุสานของ MUSTAFA KEMAL ATATURK ซึ่งเป็นผู้นำในสงครามกู้ อิสรภาพของตุรกีหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐตุรกี และประธานาธิบดีคนแรกเป็นสุสานของ ISMET INONU ประธานาธิบดีคนที่ 2 ของตุรกีด้วย อนุสรณ์สถานออกแบบโดยสถาปนิกชาวตุรกี สร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1944 – 1953 ในธนบัตรตุรกีที่พิมพ์ระหว่างปี 1966 – 1987 และ 1999 – 2009 จะเป็นรูป ANITKABIRด้วย สุสานอตาเติร์ก (Anitkabir หรือ Memorial Tomb หรือ Atatürk Mausoleum)
นำทุกท่านเดินทางต่อสู่กรุงอิสตันบูล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชม. ระยะทาง 450 กม.
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก RAMADA GOLDEN HORN HOTEL ระดับ 4 ดาว หรือเทียบเท่า
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
จากนั้นนำทุกท่านสู่ จัตุรัสสุลต่านอะห์เมต หรือ ฮิปโปโดรม สนามแข่งม้าของชาวโรมัน จุดศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวเมืองเก่า สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิ เซปติมิอุส เซเวรุส เพื่อใช้เป็นที่แสดงกิจกรรมต่างๆ ของชาวเมือง ต่อมาในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน ฮิปโปโดรมได้รับการขยายให้กว้างขึ้น ตรงกลางเป็นที่ตั้งแสดงประติมากรรมต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศิลปะในยุคกรีกโบราณในสมัยออตโตมันสถานที่แห่งนี้ใช้เป็น ที่จัดงานพิธี แต่ในปัจจุบันเหลือเพียงพื้นที่ลานด้านหน้ามัสยิดสุลต่านอะห์เมต ซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโอเบลิกส์ 3 ต้น คือ เสาที่สร้างในอียิปต์ เพื่อถวายแก่ฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 3 ถูกนำกลับมาไว้ที่อิสตันบูล เสาต้นที่สอง คือ เสางู และเสาต้นที่สาม คือ เสาคอนสแตนตินที่ 7 จากนั้นไม่ไกลนำทุกท่านชม Blue Mosque หรือ Sultan Ahmet Mosque ถือเป็นสุเหร่าที่มีสถาปัตยกรรมเป็นสุดยอดของ 2 จักรวรรดิ คือ ออตโตมันและไบเซนไทน์ เพราะได้รวบรวมเอาองค์ประกอบจากวิหารเซนต์โซเฟียผนวกกับสถาปัตยกรรมแบบอิสลามดั้งเดิม ถือว่าเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี สามารถจุคนได้เรือนแสน ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 7 ปี ระหว่าง ค.ศ.1609-1616 โดยตั้งชื่อตามสุลต่านผู้สร้างซึ่งก็คือ Sultan Ahmed นั้นเอง จากนั้นนำทุกท่านชม สุเหร่าเซนต์โซเฟีย(Saint Sophia) หรือ โบสถ์ฮาเจีย โซเฟีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคกลาง ปัจจุบันเป็นที่ประชุมสวดมนต์ของชาวมุสลิม ในอดีตเป็นโบสถ์ทางศาสนาคริสต์ พระเจ้าจักรพรรดิคอนสแตนติน เป็นผู้สร้างเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่13 ใช้เวลาสร้าง 17 ปี เพื่อเป็นโบสถ์ของศาสนาคริสต์ แต่ถูกผู้ก่อการร้ายบุกทำลายเผาเสียวอดวายหลายครั้งเพราะเกิดการขัดแย้งระหว่างพวกที่นับถือศาสนาคริสต์กับศาสนาอิสลาม จวบจนถึงรัชสมัยของ พระเจ้าจัสตินเนียน มีอำนาจเหนือตุรกี จึงได้สร้าง โบสถ์เซนต์โซเฟีย ขึ้นใหม่ ใช้เวลาสร้างฐานโบสถ์ 20 ปี ตัวโบสถ์ 5 ปี เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1996 (ค.ศ 1435) พระองค์ต้องการให้เป็นสิ่งสวยงามที่สุดได้พยายามหา สิ่งของมีค่าต่างๆ มาประดับไว้มากมาย สร้างเสร็จได้มีการเฉลิมฉลองกันอย่าง มโหฬาร ต่อมาเกิดแผ่นดินไหวอย่างใหญ่ทำให้แตกร้าวต้องให้ช่างซ่อมจนเรียบร้อยในสภาพเดิมเมื่อสิ้นสมัยของจักรพรรดิจัสตินเนียน ถึงสมัย พระเจ้าโมฮัมเหม็ดที่ 2 มีอำนาจเหนือตุรกี และเป็นผู้นับถือศาสนาอิสลามจึงได้ดัดแปลงโบสถ์หลังนี้ให้เป็นสุเหร่าของชาวอิสลาม
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
หลังจากนั้นนำทุกท่านชม พระราชวัง Topkapi ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าซึ่งถือเป็นเขตประวัติศาสตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 พระราชวัง Topkapi สร้างขึ้นโดยสุลต่านเมห์เมตที่ 2 ในปี ค.ศ.1459 บนพื้นที่กว้างใหญ่ถึง 4 ลานกว้าง และมีอาคารขนาดเล็กอีกจำนวนมาก ณ จุดที่สร้างพระราชวังแห่งนี้สามารถมองเห็นช่องแคบบอสฟอรัส โกลเดนฮอร์นและทะเลมาร์มาร่าได้อย่างชัดเจน ในช่วงที่เจริญสูงสุดของอาณาจักรออตโตมัน พระราชวังแห่งนี้มีราชวงศ์และข้าราชบริพารอาศัยอยู่รวมกันมากถึงสี่พันกว่าคน นำท่านเข้าชมส่วนของท้องพระโรงที่เป็นที่จัดแสดงทรัพย์สมบัติ ข้าวของเครื่องใช้ส่วนพระองค์เครื่องเงินต่างๆ มากมาย
นำท่านสู่ ตลาดสไปซ์มาร์เก็ต (Spice Market) หรือตลาดเครื่องเทศ ให้ท่านได้อิสระเลือกซื้อของฝากได้ในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก เครื่องประดับ ชา กาแฟ ผลไม้อบแห้ง ขนมของหวานขึ้นชื่อและถั่วหลากหลายชนิดให้เลือกสรร
ได้เวลาอันสมควรนำทุกท่านเดินทางสู่สนามบิน
20.10 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบิน Turkish Airlines เที่ยวบินที่ TK-64
09.25 น.คณะเดินทางกลับถึง สนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร โดย ทีมงาน Siamtogo ส่งทุกท่านถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ
โปรแกรมเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้คำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ
อัตราค่าบริการนี้รวม
- ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ โดยสายการบิน Turkish Airlines ชั้นประหยัด
- ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์
- ค่ารถปรับอากาศนำเที่ยวตามรายการ พร้อมคนขับรถที่ชำนาญเส้นทาง
- ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน ในโรงแรมตามที่ระบุในรายการหรือระดับเดียวกันรวมทั้งสิ้น 5 คืน
- ค่าอาหารทุกมื้อที่ระบุตามรายการ (บริการน้ำดื่มวันละ 1 ขวดเล็ก และ ในร้านอาหาร 1 ขวดใหญ่ต่อ 4 ท่าน
- ค่าบัตรเข้าชมสถานที่และการแสดงทุกแห่งที่ระบุตามรายการ
- ค่าบริการนำทัวร์โดยมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์ผู้มีประสบการณ์
- ค่าประกันอุบัติเหตุในการเดินทางวงเงิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาล 500,000 บาท วงเงิน
- คุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า ”อาหารเป็นพิษเท่านั้น”)(หมายเหตุ: ค่าประกันอุบัติเหตุสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 เดือน และ ผู้ใหญ่อายุมากกว่า 75 ปีทางบริษัทประกันฯจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพียงครึ่งหนึ่งของสัญญาฯ)
**ประกันภัยที่ทำจากเมืองไทย ไม่ครอบคลุมการขึ้นบอลลูนและเครื่องร่อนทุกประเภท ดังนั้นการเลือกซื้อ Optional Tour ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของท่าน**
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง
- ภาษีต่าง ๆ เช่น ภาษี 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% ฯลฯ
- ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ เช่น ค่าโทรศัพท์, ค่าซักรีด, มินิบาร์และทีวีช่องพิเศษ ฯลฯ และที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ
- ค่าอาหารและเครื่องดื่มสั่งพิเศษ นอกเหนือจากรายการที่ระบุไว้
- ค่ายกขนกระเป๋าเดินทางท่านละ 1 ใบ โดยเฉลี่ย 1 USD / ท่าน
- ค่าทิปต่าง
ค่าทิปมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ท่านละ 3 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 6 วัน เท่ากับ 18 USD)
พนักงานขับรถในประเทศตุรกี ท่านละ 2 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 6 วัน เท่ากับ 12 USD)
ค่าทิปค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ท่านละ 3 USD / ท่าน / วัน (คิดเป็น 8 วัน เท่ากับ 24 USD)
แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความประทับใจของลูกค้า ทางบริษัทมิได้มีการบังคับแต่อย่างใด
หากมีข้อสงสัย,
ต้องการเดินทางในช่วงอื่นๆ,
เพิ่มพักเดี่ยว หรือมีเด็กร่วมเดินทาง
กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่