ReadyPlanet.com
dot
ค้นหาโปรแกรมทัวร์


  [Help]
dot
dot
Program tour
dot
Korea Japan tour ทัวร์เกาหลี ญี่ปุ่น
Taiwan tour ทัวร์ไต้หวัน
Hong Kong tour ทัวร์ฮ่องกง
Singapore tour ทัวร์สิงคโปร์
C L M V  tour ทัวร์CLMV
China tour ทัวร์จีน
European tour ทัวร์ยุโรป
India tour ทัวร์อินเดีย
America tour ทัวร์อเมริกา
Russia tour ทัวร์รัสเซีย
Middle East tour ทัวร์ตะวันออกกลาง
England tour ทัวร์อังกฤษ
Australia tour ทัวร์ออสเตรเลีย
Domestic tour ทัวร์ในประเทศ
Seminar&Training&CSR อบรมสัมมนา




CST39 เบตง ใต้สุดสยาม ต้นไม้พันปี 3D2N (SL)  

รหัส : CST39
ราคาปกติ :  9,599.00      
ราคาพิเศษ :  6,999.00
ไฟล์เอกสาร : cst39.pdf
รายละเอียดย่อ :
*ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว
*วัดช้างให้
*สตรีทอาร์ต
*อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
*ขึ้นสกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
*สะพานแขวนแตปูซู
*น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9
*อุโมงค์ปิยะมิตร
*สวนหมื่นบุปผา
*บ่อน้ำพุร้อน
*ศาลาประชาคมเบตง
รายละเอียดทั้งหมด :

CST39 เบตง ใต้สุดสยาม ต้นไม้พันปี 3D2N (SL)

โดยสายการบิน Thai Lion Air (SL)

เดินทางช่วงเดือนมกราคม 2564

(ตามมาตรฐาน New Normal)

ราคาเริ่มต้น 6,999 บาท/ท่าน

ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว - วัดช้างให้ - สตรีทอาร์ต – อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ - ขึ้นสกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง - สะพานแขวนแตปูซู - น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 อุโมงค์ปิยะมิตร – สวนหมื่นบุปผา - บ่อน้ำพุร้อน - ศาลาประชาคมเบตง 

วันแรก  กรุงเทพฯ สนามบินดอนเมือง – หาดใหญ่ – ปัตตานี – ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว - วัดช้างให้ (หลวงปู่ทวด) - ยะลา - จุดชมวิวสะพานข้ามเขื่อนบางลาง – เบตง - สตรีทอาร์ต - อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ - วงเวียนหอนาฬิกาเบตง - ตู้ไปรษณีย์โบราณ

04.30 น.            คณะพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง บริเวณผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ อาคาร 2 สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air) เจ้าหน้าที่ Siamtogo คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอินรับบัตรโดยสาร **หมายเหตุ** เคาน์เตอร์เช็คอินจะปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 60 นาที และผู้โดยสารพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออก 20 นาที เนื่องจากตั๋วเครื่องบินของคณะเป็นตั๋วชั้นประหยัดพิเศษ ที่นั่งอาจจะไม่ได้นั่งติดกันและไม่สามารถเลือกช่วงที่นั่งบนเครื่องบินได้ในคณะซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขสายการบิน หากท่านต้องการเลือกที่นั่งบนเที่ยวบินมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และราคาทัวร์รวมค่าน้ำหนักกระเป๋าขึ้นเครื่อง (Carry on) 7 กก. ต่อท่าน หากท่านต้องการโหลดกระเป๋าสัมภาระ สามารถซื้อเพิ่ม 15 ก.ก. ราคา 375 บาท ต่อท่านต่อเที่ยวบิน, 20 ก.ก. ราคา 405 บาท ต่อท่านต่อเที่ยวบิน โปรดติดต่อฝ่ายขายเพื่อชำระค่าบริการเพิ่มเติม)

06.40 น.            ออกเดินทางบินลัดฟ้าสู่ หาดใหญ่ โดย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air) เที่ยวบินที่ SL702 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

08.10 น.            เดินทางถึง สนามบินหาดใหญ่ ให้ท่านรับสัมภาระให้เรียบร้อย ไกด์นำเที่ยวรอท่านอยู่ด้านนอกที่จุดนัดพบ จากนั้นนำท่านออกเดินทางสู่จังหวัดปัตตานี โดยรถตู้ปรับอากาศ (ระยะทาง 118 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง โดยประมาณ) จากนั้นนำท่านชม ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เชื่อกันว่าผู้มาขอพรให้โชคลาภจะได้ผล หรือแม้แต่การค้าขายที่ซบเซาหรือขาดทุนก็กลับรุ่งเรืองขึ้นจนทำให้เกิดความนับถือศรัทธาอย่างมาก ชาวปัตตานีจึงได้นำต้นไม้ที่ลิ้มกอเหนี่ยวผูกคอตายมาแกะสลักเป็นรูปบูชาและรสร้างศาลเจ้าขึ้นสักการะ สำหรับองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความเมตตาโชคลาภ ค้าขาย ซึ่งเป็นที่นิยมมากราบไหว้ของพรเพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิต

                        จากนั้นนำท่านชม วัดช้างให้ หรือ วัดราษฎร์บูรณะ ตั้งอยู่ที่ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ สังกัดคณะสงฆ์ มหานิกาย เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตามตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิสำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมืองและไพร่พลเดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง แล้วร้องขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำจึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำจึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า วัดช้างไห้ แล้วนิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกของวัดและอัฐิของท่านก็ถูกบรรจุไว้ที่วัดแห่งนี้ อิสระให้ท่านไหว้พระขอพร หรือเช่าบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ทวดตามอัธยาศัย

กลางวัน            บริการอาหารกลางวัน

                        สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางต่อไปยัง อำเภอเบตง ระหว่างทางนำท่านจอดแวะถ่ายรูปบริเวณ สะพานข้ามเขื่อนบางลาง บริเวณบ้านคอกช้าง อ.ธารโต สะพานแห่งนี้สร้างขึ้นมาเพื่อล่นระยะทางในการเดินทาง จากเดิมที่จะต้องไปตามไหล่เขา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา–เบตง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะพักถ่ายรูปและยืดเส้นยืดสายก่อนจะเดินทางต่อ เบตง จัดเป็นอำเภอหนึ่งที่มีเอกลักษณ์ ความงดงาม ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความเชื่อ ความศรัทธา และเชื้อชาติที่หลากหลายที่ผสมปนเปภายใต้ความเป็นหนึ่งเดียว จนทำให้บรรดาผู้มาเยือนต่างหลงใหลและแปลกใจ เบตง ตั้งอยู่ใต้สุดฝั่งตะวันตกของประเทศไทย มีเขตแดนติดกับประเทศมาเลเซีย โอบล้อมด้วยแนวเทือกเขาสันการาคีรี ภูมิประเทศของอำเภอเบตง ด้วยภูมิประเทศแบบนี้จึงทำให้เบตงมีอากาศที่ดี อากาศเย็น และมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี ดังคำขวัญประจำอำเภอที่ว่า “เมืองในหมอก ดอกไม้งาม ใต้สุดสยาม เมืองงามชายแดน” คำว่า เบตง มาจากภาษามลายู "Buluh Betong" หมายถึง "ไม้ไผ่ขนาดใหญ่" หรือที่คนในพื้นที่จะรียกไผ่ชนิดนี้ว่า ไผ่ตง ดังนั้นต้นไผ่ตงจึงกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของอำเภอเบตง นำคณะเดินชมจุดเด่นที่ได้รับความนิยมของตัวเมืองเบตงได้แก่ สตรีทอาร์ท หรือ ถนนศิลปะ งานศิลปะที่สะท้อนเรื่องราวและวิถีชีวิตของความเป็นเบตงได้อย่างดี  จุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์ผลงานที่งดงามดังกล่าว เกิดจากทาง อ.เบตง จ.ยะลา ได้มีการจัดงาน 111 ปี เล่าขานตำนานเมืองเบตง ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อสร้างหมุดหมายที่แสดงออกถึงวิถีชีวิตของชาวเบตงและ สร้างจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์ขนาดใหญ่ที่เจาะผ่านภูเขาเพื่อเชื่อมต่อส่วนขยายของเมืองไปอีกฟากของตัวเมือง อุโมงค์แห่งนี้ยังเป็นอุโมงค์ที่ผู้คนสามารถใช้สัญจรไปมาด้วยรถยนต์แห่งแรกของประเทศไทย ภายในอุโมงค์ตกแต่งประดับประดาด้วยไฟหลากสี ตัวอุโมงค์มีความยาวถึง 273 เมตร กว้าง 9 เมตร ผิวจราจรคู่ กว้าง 7เมตร ทางเท้าเดินกว้างข้างละ 1 เมตร และมีความสูงถึง 7 เมตร เปิดใช้อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2544 จากนั้นนำท่านถ่ายรูปกับ วงเวียนหอนาฬิกาเบตง และ ตู้ไปรษณีย์โบราณ ในส่วนของตัวหอนาฬิกาสร้างขึ้นด้วยหินอ่อนขาวที่มีอยู่มากในจังหวัดยะลา หอนาฬิกาเป็นสัญลักษณ์ของเมืองหรือจะเรียกว่าเป็นสะดือของเมืองเบตงก็ว่าได้ ในเทศกาลต่าง ๆ ที่จัดขึ้น มักจะใช้บริเวณหอนาฬิกานี้เป็นจุดนัดหมายในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ และใกล้ๆ กันนั้นที่อยู่คู่เมืองเบตงมาช้านาน คือ ตู้ไปรษณีย์โบราณ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2482 สูง 2.9 เมตร โดยผู้ที่ดำริแนวคิดคือ นายสงวน จิรจินดา อดีตนายไปรษณีย์โทรเลขเบตง ที่ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลเบตง คนแรก ในปัจจุบันนี้ตู้ไปรษณีย์แห่งนี้ยังเปิดใช้งานได้ และนักท่องเที่ยวมักจะซื้อโปสการ์ด เขียนและส่งจดหมายถึงญาติคนรัก หรือส่งถึงตัวเอง เก็บไว้เป็นความทรงจำ และอีกสิ่งหนึ่งที่จะข้ามผ่านไม่พูดถึงไม่ได้ คือ ฝูงนกนางแอ่น ที่บินอพยพหนีความหนาวเย็นมาไกลจากไซบีเรีย และจะพบฝูงนกนางแอ่นมากในช่วงเดือนกันยายนถึงมีนาคม ของทุกปี เรียกได้ว่าเป็นอีกสัญลักษณ์ของเมืองเบตง อยุ่คู่กับเมืองเบตงมาช้านาน สมควรแก่เวลานำท่านกลับสู่ที่พัก พักผ่อนตามอัธยาศัย

ค่ำ                    บริการอาหารค่ำ เมนูพิเศษ ไก่เบตง และ ผักน้ำผัดน้ำมันหอย

ที่พัก     Holiday Hill Hotel หรือระดับเทียบเท่า 3 ดาว

วันที่สอง  สกายวอล์คชมทะเลหมอกอัยเยอร์เวง - สะพานแขวนแตปูซู - น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 อุโมงค์ปิยะมิตร – สวนหมื่นบุปผา - บ่อน้ำพุร้อน - ศาลาประชาคมเบตง

04.00 น.            นำท่านออกเดินทางไปชม ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ตั้งอยู่ใน ตำบลอัยเยอร์เวง ห่างจากตัวเมืองเบตง 30 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ได้รับความสนใจและพูดถึงเมื่อไม่นานมานี้ และขึ้นชื่อในเรื่องของการชมพระอาทิตย์ขึ้น ควบคู่ไปกับการชมทะเลหมอกอันสวยงาม จุดเด่น คือ ไม่ว่าคุณจะมาฤดูไหน หรือช่วงเวลาไหน ท่านก็มีโอกาสที่จะได้เห็นวิวทิวทัศน์เบื้องหน้าที่เป็นทะเลหมอกตลอดทั้งปี ทะเลหมอกที่ก่อตัวจากผืนป่า ฮาลา–บาลา ทะเลสาบเขื่อนบางลาง รวมถึงสามารถมองไปไกลได้ถึงประเทศมาเลเซียเลยทีเดียว นำท่านขึ้นจุดชมวิว Skywalk ชมวิวทิวทัศน์แบบรอบทิศทางแบบ 360 องศา ( การเที่ยวชมทะเลหมอก อาจมีการสลับสับเปลี่ยนได้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ )

เช้า                   บริการอาหารเช้า

                        สมควรแก่เวลานำคณะเดินทางต่อไปยัง สะพานแขวนแตปูซู แวะถ่ายรูปกับสะพานไม้ สะพานแขวนแห่งนี้ใช้งานมาหลายสิบปี วัตถุประสงค์หลักที่สร้างขึ้นนั้น ในอดีตชาวบ้านใช้ขนถ่ายสินค้าทางการเกษตร เช่น ผลไม้ ยางพารา และใช้สัญจรของชาวสวนในพื้นที่ ตัวสะพานมีความกว้าง 1.8 เมตร ยาว 100 เมตร จากนั้นนำทุกท่านไปยลโฉมของธรรมชาติเบื้องล่างของ น้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ที่ไหลมาจากต้นน้ำบนยอดเขา เดิมที น้ำตกแห่งนี้มีชื่อเรียกของคนท้องถิ่นว่า น้ำตกวังเวง และได้เปลี่ยนชื่อในปีมหามงคล สาระครบรอบ 72 พรรษา ในปี 2542 ประกอบกับ อบต.อัยเยอร์เวง ได้เข้ามาพัฒนาบุกเบิกเส้นทาง ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และได้เปลี่ยนชื่อเป็นน้ำตกเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

                        จากนั้นนำท่านชม อุโมงค์ปิยะมิตร ตั้งอยู่บ้านปิยะมิตร 1 ตำบลตะเนาะแมเราะ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ที่ในอดีตเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา (พคม.) ฐานปฏิบัติการแห่งนี้ เป็นฐานที่มั่นทางทหารในแนวหลังของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา ว่ากันว่าฐานที่มั่นแห่งนี้เป็นฐานที่มั่นในแนวหลังของสงครามระหว่าง พคม กับ รัฐบาลมาเลเซีย ที่แข็งแกร่งที่สุด เคยถูกทิ้งระเบิดถึง 2 ครั้ง แต่ยังคงขับเคลื่อนกองกำลังได้ อุโมงค์ปิยะมิตรนั้น เป็นอุโมงค์ที่ขุดลึกลงไปในชั้นดิน จุดที่ลึกที่สุดมีความลึกถึง 6 เมตร ใช้กำลังคน 60 – 80 คน ใช้เวลาขุด 3 เดือนเศษ อุโมงค์มีความกว้าง 50 – 60 ฟุต ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร และมีทางเข้าออกถึง 9 ทาง เชื่อมต่อถึงกันหมด กระจายอยู่รอบ ๆ ภูเขา ภายในอุโมงค์นั้น สามารถจุคนได้มากถึง 400 คน ภายในอุโมงค์มีโรงพยาบาลสนาม ห้องส่งสัญญาณวิทยุระยะไกล ห้องปฏิบัติงานวางแผน ในส่วนของพื้นผิวด้านบนของอุโมงค์มีต้นไม้ใหญ่ปกคลุมหนาทึบ ยากต่อการที่ฝ่ายตรงข้ามจะตรวจหาเจอ มีอาคารที่ใช้ประชุมและเป็นโรงเรียนของพรรคฯ ลานสันทนาการ เช่น สนามบาสเกตบอล เทเบิลเทนนิส

กลางวัน            บริการอาหารกลางวัน พิเศษ...เมนูปลารสเลิศ จากปลานิลสายน้ำไหลชื่อดังของเบตง

บ่าย                  นำคณะเดินทางต่อไปยัง สวนหมื่นบุปผา หรือ สวนดอกไม้เมืองหนาว ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านปิยะมิตร 2  สวนดอกไม้นี้อยู่ท่ามกลางภูเขา สูงจากระดับทะเลปานกลางราว 800 เมตร มีอากาศเย็นสบายตลอดปี เหมาะสมกับการปลูกไม้ดอกเมืองหนาวนานาชนิด สวนนี้เกิดขึ้นจากโครงการตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้พระราชทานนามสวนแห่งนี้ว่า ว่านฮัวหยวน หรือ แปลเป็นไทยว่า สวนหมื่นบุปผา โดยมีการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสร้างอาชีพให้กับกลุ่มผู้พัฒนาชาติไทยในอดีต ในชุมชนและหมู่บ้านบริเวณนี้ อดีตล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิก พคม. ที่ประกาศตัววางอาวุธ ในปี 2532 เป็นผู้พัฒนาชาติไทย และเลือกที่จะพักอาศัยอยู่ในประเทศไทยต่อไป นำท่านเดินทางกลับ แวะพักผ่อนที่ บ่อน้ำพุร้อนเบตง บ่อน้ำพุร้อนเป็นบ่อน้ำแร่ร้อนตามธรรมชาติขนาดใหญ่ประกอบด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ มากมาย โดยอุณหภูมิของบริเวณจุดตาน้ำนั้นอยู่ที่ 60 – 80 องศาเซลเซียส และนักท่องเที่ยวมักจะทำกิจกรรมครอบครัว คือ นำไข่ไก่ ไข่นกกระทา มาลวก โดยใช้เวลาเพียง 7 นาทีเท่านั้น ไข่ก็สุกพร้อมรับประทาน บริเวณโดยรอบมีการสร้างสระน้ำขนาดใหญ่สำหรับกักน้ำจากน้ำพุร้อนเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ใช้อาบหรือแช่เท้าเพื่อผ่อนคลายความเมื่อยล้าได้เป็นอย่างดี แต่ละโซนของพื้นที่ออกแบบได้อย่างมาตรฐาน ถูกสุขลักษณะและสระธาราบำบัด ตลอดจนอาคารสำหรับพักค้างคืนที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอย่างครบครัน สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางกลับเข้าสู่ตัวเมืองเบตง

                        จากนั้นนำท่านแวะชมและถ่ายรูปด้านนอก ศาลาประชาคม ชมหอนาฬิกาโบราณและตู้ไปรษณีย์ยักษ์ที่ได้จำลองแบบมาจากของเดิมที่อยู่ในตัวเมืองเบตง

ค่ำ                    บริการอาหารค่ำ เมนูพิเศษ...กบภูเขาทอด

ที่พัก     Holiday Hill Hotel หรือระดับเทียบเท่า 3 ดาว

วันที่สาม  วัดพุทธาธิวาส – ของฝากเบตง – ป้ายใต้สุดสยาม – ร้านวุ้นดำ ต้นตำรับ (เฉาก๊วย ก.ม. 4) สนามบินเบตง – จุดเช็คอินป้ายโอเคเบตง – ตลาดบางพังกา / ตลาดกิมหยง – หาดใหญ่สนามบินดอนเมือง

เช้า                   คณะพบกัน ณ บริเวณล้อบบี้โรงแรม เตรียมสัมภาระลงมาฝากไว้บริเวณล้อบบี้ จากนั้นไป รับประทานอาหารเช้า แบบติ่มซำ อยู่ตรงข้ามโรงแรม/ร้านใกล้เคียงโรงแรม ติ่มซำชื่อดังของเบตง ทานคู่กับน้ำชากาแฟยามเช้า

                        จากนั้นเดินทางไปยัง วัดพุทธาธิวาส วัดคู่เมืองเบตง เดิมชื่อวัดเบตง ก่อตั้งเมื่อ เมื่อวันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2460 สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย พื้นที่ตั้งวัดเป็นเนินเขาสูงเอียงลาดลงไปทางทิศเหนือ จัดแบ่งพื้นที่วัดออกเป็นชั้นทั้งหมด 5 ชั้น ตั้งเด่นสง่าอยู่บนเนินเขามีพระธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศตั้งโดดเด่นมองเห็นศิลปกรรมแบบศรีวิชัยประยุกต์โดยในองค์มหาธาตุเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล

                        จากนั้นนำท่านสู่ ร้านวุ้นดำ กม. 4 หรือ ร้านเฉาก๊วย ร้านต้นตำหรับอร่อยระดับตำนาน เฉาก๊วยที่ผ่านกระบวนวิธีทำแบบดั้งเดิม ต้มเคี่ยวหญ้าเฉาก๊วยมากกว่า 3 ชั่วโมง ด้วยเตาฟืน ซึ่งจะทำให้มีกลิ่นหอมของหญ้าเฉาก๊วย ที่มากไปด้วยสรรพคุณทางยา ช่วยแก้ร้อนในกระหายน้ำ ขับเสมหะ แก้คลื่นไส้ ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และหากนำต้นเฉาก๊วยมาต้มให้เดือดแล้วนำน้ำเฉาก๊วยมาดื่มเป็นประจำจะช่วยลดอาการโรคความดันโลหิตสูง และโรคเบาหวานได้อีกด้วยให้ท่านได้อิสระซื้อเป็นของฝาก จากนั้นนำท่านเดินทางไปยัง ร้านของฝากของที่ระลึกเบตง ให้ท่านได้เลือกซื้อของฝากจากท้องถิ่น เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มแม่บ้าน สินค้า OTOP ,รังนก, หมี่เหลืองเบตง, ซีอิ้วเบตง, ส้มโชกุน, เสื้อยืดสกรีน OK BETONG เป็นต้น

                        จากนั้นนำท่านออกเดินทางไปยังบริเวณพรมแดน ไทย – มาเล ฯ จุดผ่านแดนถาวรที่เชื่อมระหว่างสองประเทศ ถ่ายภาพหมู่กับ ป้ายใต้สุดสยาม จากนั้นนำท่าน แวะชมและถ่ายรูปด้านนอกอาคาร สนามบินเบตง ชมสถาปัตยกรรมที่ตกแต่งด้วยไม้ไผ่ สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น ซึ่งคำว่า "เบตง" หรือ “บือตง” เป็นภาษาถิ่นมลายู แปลว่า "ไม้ไผ่" กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอำเภอเบตง

กลางวัน            บริการอาหารกลางวัน

บ่าย                  จากนั้นนำท่านแวะจุดเช็คอินสุดฮิต ให้ท่านอิสระถ่ายรูป ป้ายโอเคเบตง ก่อนเดินทางกลับ

                        จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ หาดใหญ่ พักผ่อนบนรถ (ระยะทาง 259 ก.ม. ใช้เวลาเดินทาง 4.30 ชั่วโมง โดยประมาณ ) หากมีเวลานำท่านแวะซื้อของฝาก อาหารทะเลแปรรูป, สินค้าพื้นเมือง ที่ ตลาดบางพังกา หรือ ตลาดกิมหยง จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ สนามบินหาดใหญ่

22.10 น.            ออกเดินทางบินลัดฟ้ากลับสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง โดย สายการบินไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air) เที่ยวบินที่ SL725 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง 35 นาที ไม่มีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง

23.45 น.            เดินทางถึง สนามบินดอนเมือง มีเจ้าหน้าที่ Siamtogo ส่งคณะโดยสวัสดิภาพพร้อมความประทับใจมิรู้ลืม


โปรแกรมเดินทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสมโดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ทั้งนี้คำนึงถึงความปลอดภัยและประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ

อัตราค่าบริการนี้รวม

  • ค่าบัตรโดยสารชั้นประหยัดพิเศษเดินทางไปกลับตามเส้นทางและวันที่ระบุในรายการ
  • ค่าน้ำหนักสำภาระถือขึ้นเครื่อง 7 กิโลกรัมต่อท่าน ต่อเที่ยวบิน
  • ค่ารถนำเที่ยวตามรายการที่ระบุ
  • ค่าที่พักระดับ 3 ดาว ตามรายการ 2 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)
  • ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ (ทางบริษัทสงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์) 
  • ค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามที่ระบุในรายการ
  • ค่าประกันชีวิตกรณีอุบัติเหตุในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินไม่เกินท่านละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลกรณีอุบัติเหตุในวงเงินไม่เกิน ท่านละ 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) 
  • ค่ามัคคุเทศก์ผู้ชำนาญเส้นทาง

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม

  • ค่าบริการโหลดกระเป๋าตามที่สายการบินระบุ กรณีต้องการซื้อเพิ่ม 15 ก.ก. ราคา 375 บาท ต่อท่านต่อเที่ยวบิน, 20 ก.ก. ราคา 405บาท ต่อท่านต่อเที่ยวบิน
  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
  • ค่าใช้จ่ายส่วนตัวนอกเหนือจากรายการที่ระบุ เช่น ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหารที่สั่งเพิ่มเอง, ค่าซักรีด, ฯลฯ
  • ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ, การประท้วง, การจลาจล, การนัดหยุดงาน, การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ
  • ค่าทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถ 350 บาท /ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน​

 

หากมีข้อสงสัย,
ต้องการเดินทางในช่วงอื่นๆ,
เพิ่มพักเดี่ยว หรือมีเด็กร่วมเดินทาง
กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่



หากสนใจ กรุณากรอกรายละเอียดเพื่อติดต่อกลับ
ชื่อ - นามสกุล :  *
Email :
Line ID :
เบอร์ติดต่อ :  *
ที่อยู่ :
รหัสโปรแกรม :  *
วันเดินทาง - ไป :  *
วันเดินทาง - กลับ :  *
จำนวนผู้เดินทาง(ผู้ใหญ่) :  *
จำนวนผู้เดินทาง(เด็ก) :
รายละเอียดเพิ่มเติม :